เอ็มมา วัตสันยังคงใช้คนดังของเธอยืนหยัดอยู่เบื้องหลังประเด็นทางการเมืองที่สำคัญ

ในจดหมายเปิดผนึกที่เขียนถึง Net-A-Porterนักแสดงสาวและนักเคลื่อนไหววัย 28 ปี กล่าวถึงบันทึกอันทรงพลังถึง ดร.สาวิตา ฮาลัปปานาวาร์ ซึ่งถูกปฏิเสธไม่ให้ทำแท้งในไอร์แลนด์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังจากประสบภาวะแท้งจากการติดเชื้อในปี 2555

การตายของเธอช่วยกระตุ้นให้นักเคลื่อนไหวนำข้อหายกเลิกการสั่งห้ามทำแท้งที่เข้มงวดของเคาน์ตีเมื่อต้นปีนี้

“คุณไม่ต้องการที่จะกลายเป็นใบหน้าของการเคลื่อนไหว คุณต้องการขั้นตอนที่ช่วยชีวิตคุณได้” วัตสันเขียนไว้ในจดหมาย

“ครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อชุมชนท้องถิ่นและทั่วโลกของเราร่วมกันไว้อาลัยต่อการตายอันน่าสลดใจอันเนื่องมาจากความอยุติธรรมทางสังคม เราส่งส่วย ระดมกำลัง และประกาศ: อยู่ในอำนาจ คำสัญญาถึงผู้จากไปและการเรียกร้องของสังคม เราสวดมนต์: ไม่มีอีกแล้ว” เธอกล่าวต่อ ก่อนที่จะยอมรับว่า “ความยุติธรรม” นั้น “หายาก” เพียงใด “ความยุติธรรมมีชัยอย่างแท้จริง”

เอ็มม่า วัตสัน ลีด

เครดิต: DVT/Star Max

“ข้อความในอนุสรณ์สถานของคุณในดับลินอ่านว่า 'เพราะคุณนอนหลับ พวกเราหลายคนตื่นแล้ว'” วัตสันกล่าวต่อ “สำหรับคุณและผู้ที่ถูกบังคับให้เดินทางไปสหราชอาณาจักรเพื่อทำแท้งอย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย ความยุติธรรมได้รับชัยชนะอย่างยากลำบาก”

click fraud protection

“ในความทรงจำของคุณ สู่การปลดปล่อยของเรา เรายังคงต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในการสืบพันธุ์” เธอสรุป พร้อมลงนามในจดหมาย “ด้วยความรักและความสามัคคีทั้งหมดของฉัน”

หลังจากการตีพิมพ์จดหมายเปิดผนึก วัตสันเขียนบน Twitter ว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง” ที่ได้รับการขอให้ “แสดงความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อมรดก ของ ดร.สาวิตา ฮาลัปปานาวาร์ ผู้ซึ่งความตายเป็นแรงผลักดันให้นักเคลื่อนไหวเปลี่ยนกฎหมายการทำแท้งของไอร์แลนด์และต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในการเจริญพันธุ์ทั่ว โลก."

ที่เกี่ยวข้อง: Emma Watson ออกเดทกับอดีตอย่างเป็นทางการ กลี สตาร์และพวกเขากำลังโรแมนติกในที่สาธารณะแล้ว

นอกเหนือจากการสนับสนุนความยุติธรรมในการสืบพันธุ์แล้ว วัตสันยังเป็นสตรีนิยมที่พูดตรงไปตรงมา

NS ความงามและสิ่งที่ดีที่สุด สตาร์เป็นหนึ่งในดาราดังหลายคนที่ปัจจุบันสนับสนุนการเคลื่อนไหว Time's Up และในเดือนกุมภาพันธ์ เธอบริจาคเงิน 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ) 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) ให้กับกองทุน Justice and Equality Fund ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มในสหราชอาณาจักรที่ต่อสู้กับการล่วงละเมิดทางเพศ การทำร้ายร่างกาย และ การเลือกปฏิบัติ

ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อองค์การสหประชาชาติในปี 2014 เธอยังช่วยเปิดตัว แคมเปญ HeForSheซึ่งพยายามกระตุ้นให้ผู้ชายและเด็กชายมีส่วนร่วมในการยุติความเท่าเทียมทางเพศ