หากดูเหมือนว่าผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวของคุณมีภูมิคุ้มกันต่อครีม โลชั่น และมาส์กที่ต่อสู้กับฝ้าทุกตัวที่คุณได้ลองมา ดูเหมือนว่าการควบคุมการเกิดสิวเป็นสาเหตุที่หายไป

แต่ปรากฎว่าโบท็อกซ์ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เจ็บปวดสำหรับการลดรอยตีนกาหรือรอยหน้าผากที่คุณแขวนอยู่ สามารถใช้เพื่อต่อสู้กับสิวปากแข็งได้เช่นกัน

ที่เกี่ยวข้อง: วิธีป้องกันและกำจัดเส้นคอ

แพทย์ผิวหนังในนครนิวยอร์ก ดร.แพทริเซีย เว็กซ์เลอร์ กล่าวว่าโบทอกซ์ใช้จำนวนหนึ่งนอกฉลากซึ่งรวมถึงการกำจัดเหงื่อออกมากเกินไป ควบคุมกระเพาะปัสสาวะที่รั่ว ลดรอยแผลเป็น และล้างสิว "ตอนนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าต่อมไขมัน [ของผิวหนัง] มีตัวรับสารอะซิติลโคลีนเหมือนกัน (สารเคมีอินทรีย์ที่ทำหน้าที่เป็น สารสื่อประสาทในมนุษย์] และการฉีดโบท็อกซ์นั้นสัมพันธ์กับการผลิตน้ำมันที่น้อยลง ยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว” เธอ กล่าว

การรักษาโบท็อกซ์โดยทั่วไปที่มุ่งเป้าไปที่สิวนั้นเกี่ยวข้องกับการฉีดสารนิวโรทอกซินจำนวนเล็กน้อยเข้าไปในกล้ามเนื้อหลักของใบหน้า ช่วยลดรอยตำหนิโดยการปิดกั้นและทำให้เป็นอัมพาต acetylcholine ซึ่งปล่อยออกมาจากเส้นประสาทเข้าสู่กล้ามเนื้อ

VIDEO: 5 ผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้ผิวของคุณหนาว

"ตอนนี้แสดงให้เห็นว่าต่อมไขมันมีตัวรับอะซิติลโคลีนเหมือนกันและ การฉีดโบท็อกซ์เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมันน้อยลง ยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว” อธิบาย ดร.เว็กซ์เลอร์. เป็นแนวคิดเดียวกันกับที่โบท็อกซ์ใช้เพื่อลดการขับเหงื่อมากเกินไปโดยการปิดกั้นเส้นประสาทต่อมเหงื่อของร่างกายในลักษณะเดียวกัน แพทย์ผิวหนังยังกล่าวอีกว่าการผลิตน้ำมันที่ลดลงจะทำให้ขนาดรูพรุนหดตัวด้วย ซึ่งหมายความว่าเหงื่อออกที่รูขุมขนน้อยลง

นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่เห็นได้ชัดและต้องไปพบแพทย์เมื่อคุณใช้โบท็อกซ์เป็นทางเลือกในการรักษาสิวแล้ว ยังมีข้อเสียอื่นๆ อีกเล็กน้อย ไม่เหมือนการรักษาเฉพาะจุดที่คุณทาลงบนสิวก่อนนอน อย่าคาดหวังว่าสิวของคุณจะหดตัวทันที ดร. เว็กซ์เลอร์กล่าวว่าแม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะเห็นการปรับปรุงทีละน้อยเร็วขึ้น แต่โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนหลังการฉีดเพื่อดูความแตกต่างในผิวของคุณ ซับเงิน? โบท็อกซ์ ทำ ป้องกันสิว